ผู้ขอมีบัตรประจำตัวประชาชน จะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน มีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกิน 70 ปี บริบูรณ์ |
การขอมีบัตรครั้งแรก |
เมื่ออายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ จะต้องยื่นคำขอมีบัตรภายใน 60 วัน โดยนำหลักฐานไปแสดงดังนี้ |
หลักฐานที่นำมาแสดงในการขอมีบัตร |
-
|
สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน |
-
|
สูติบัตร (ในกรณีที่เปลี่ยนชื่อตัว - ชื่อสกุลของตัวเอง หรือบิดา / มารดา ต้องนำหลักฐานเปลี่ยนชื่อตัว - ชื่อสกุลมาด้วย) |
-
|
หลักฐานอื่นที่ทางราชการออกให้ เช่น สำเนาทะเบียนนักเรียน ใบสุทธิ ประกาศนียบัตร เป็นต้น |
-
|
กรณีบิดาและมารดา เป็นบุคคลต่างด้าว ให้นำใบสำคัญประจำตัวบุคคลต่างด้าว ของบิดาและมารดามาแสดงด้วย |
-
|
กรณีที่ไม่มาขอทำบัตรภายใน 60 วัน นับแต่วันที่มีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ ให้นำเจ้าบ้าน หรือบิดา หรือมารดา พร้อมบัตรประจำตัวไปรับรองด้วย |
* การขอมีบัตรประจำตัวประชาชนครั้งแรกไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการทำบัตรแต่อย่างใด
แต่หากไม่มาทำบัตรภายในกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท *
|
|
การขอมีบัตรกรณีบัตรเดิมหมดอายุ |
บัตรประจำตัวประชาชน มีอายุบัตร 6 ปี นับตั้งแต่วันออกบัตร และถ้าหากวันที่บัตรหมดอายุไม่ตรงกับวันเกิดของผู้ถือบัตร ให้นับระยะเวลาอายุบัตรต่อไปจนถึงวันครบรอบวันเกิดของผู้ถือบัตรในปีนั้น หรือปีถัดไป |
หลักฐานที่นำมาแสดงในการขอมีบัตร |
-
|
สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน |
-
|
บัตรเดิมที่หมดอายุ |
และหากผู้ถือบัตรมีความประสงค์จะทำบัตรก่อนวันที่บัตรเดิมจะหมดอายุ
ก็สามารถทำได้ภายใน 60 วัน ก่อนวันที่บัตรเดิมจะหมดอายุ
และไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการทำบัตรแต่อย่างใด
*บัตรมีอายุใช้ได้ 6 ปี เมื่อบัตรเดิมหมดอายุ ให้ทำบัตรใหม่ภายใน 60 วัน
นับตั้งแต่บัตรเดิมหมดอายุ โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการทำบัตรแต่อย่างใด
แต่หากไม่มาทำบัตรภายในกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 200 บาท *
|
|
การขอเปลี่ยน บัตรกรณีบัตรเดิมชำรุด |
เมื่อบัตรเดิมชำรุด ให้ทำการเปลี่ยนบัตรภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่บัตรเดิมชำรุด โดยนำหลักฐานมาแสดงในการขอเปลี่ยนบัตร ดังนี้ |
หลักฐานที่นำมาแสดงในการขอมีบัตร |
-
|
สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน |
-
|
บัตรเดิมที่ชำรุด |
-
|
หลักฐานที่ทางราชการออกให้ ที่มีรูปถ่ายซึ่งสามารถใช้พิสูจน์ตัวบุคคลได้ |
-
|
หากไม่มีหลักฐานตามข้อ 3 ให้นำเจ้าบ้าน หรือบุคคลที่น่าเชื่อถือไปรับรองด้วย |
* หากบัตรเดิมชำรุด ให้ทำการเปลี่ยนบัตรภายใน 60 วัน นับ
ตั้งแต่วันที่บัตรเดิมชำรุด โดยเสียค่าธรรมเนียม 10 บาท
หากไม่มาทำบัตรภายในกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 200 บาท *
|
|
การขอมีบัตรใหม่ กรณีบัตรหาย หรือถูกทำลาย |
เมื่อบัตรหาย หรือถูกทำลาย ไม่จำเป็นต้องแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจ แต่ให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ สำนักทะเบียนที่ตนมีชื่อในทะเบียนบ้าน เพื่อขอทำบัตรใหม่ ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่บัตรเดิมหาย หรือถูกทำลาย โดยให้นำหลักฐานไปแสดง ดังนี้ |
หลักฐานที่นำมาแสดงในการขอมีบัตร |
-
|
สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน |
-
|
หลักฐานที่ทางราชการออกให้ ที่มีรูปถ่ายซึ่งสามารถใช้พิสูจน์ตัวบุคคลได้ เช่น ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง คำขอมาบัตรเดิม |
-
|
หากไม่มีหลักฐานตามข้อ 2 ให้นำเจ้าบ้าน หรือบุคคลที่น่าเชื่อถือไปรับรองด้วย |
* การเปลี่ยนบัตรกรณีบัตรหาย หรือถูกทำลาย ให้ทำการเปลี่ยนบัตรใหม่ภายใน 60 วัน
นับตั้งแต่วันที่บัตรเดิมหาย หรือถูกทำลาย โดยเสียค่าธรรมเนียม 10 บาท
และหากไม่มาทำบัตรภายในกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 200 บาท *
|
|
การขอเปลี่ยนบัตร กรณีเปลี่ยนชื่อตัว หรือชื่อสกุลในทะเบียนบ้าน |
เมื่อมีการเปลี่ยนชื่อตัว หรือชื่อสกุล ให้เปลี่ยนบัตรภายใน 60 วัน นับแต่วันที่แก้ไขชื่อตัว หรือชื่อสกุลในทะเบียนบ้าน โดยให้นำหลักฐานมาแสดงในการขอเปลี่ยนบัตร ดังนี้ |
หลักฐานที่นำมาแสดงในการขอมีบัตร |
-
|
สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน |
-
|
บัตรเดิม |
-
|
หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว หรือชื่อสกุล |
* หากเปลี่ยนชื่อตัว หรือชื่อสกุล ให้เปลี่ยนบัตรใหม่ภายในกำหนด 60 วัน
นับแต่วันที่แก้ไขชื่อตัว ชื่อสกุลในทะเบียนบ้าน โดยเสียค่าธรรมเนียม 10 บาท
หากไม่มาทำบัตรภายในกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 200 บาท *
|
|
การเสียค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับบัตร |
-
|
กรณีที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ได้แก่ การทำบัตรครั้งแรก การทำบัตรกรณีบัตรเดิมหมดอายุ การทำบัตรกรณีพ้นจากสภาพได้รับการยกเว้น และการทำบัตรกรณีได้สัญชาติไทย |
-
|
กรณีที่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ได้แก่ บัตรหาย บัตรถูกทำลาย บัตรชำรุด ชื่อสกุล ย้ายที่อยู่ และบุคคลที่ได้รับการยกเว้น แต่ประสงค์จะขอทำบัตร โดยเสียค่าธรรมเนียม 10 บาท |
* การเสียค่าธรรมเนียมไม่เกี่ยวกับการเสียค่าปรับ
การปรับเป็นผลการจากกระทำความผิดที่ไม่ทำบัตรภายในระยะเวลา 60 วัน
ตามที่กฎหมายกำหนด *
|
|